ศิลปินเมืองน้ำหอม สร้างสรรค์ศิลปะมีกลิ่น

..
หนึ่งในรายการ “งานเทศกาลวัฒนธรรมฝรั่งเศส (ลา แฟ็ต)” ครั้งที่ 4 คือนิทรรศการ“Essences Insensees” โดยศูนย์การค้าเกษร ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย และสมาคมฝรั่งเศส จัดขึ้นในวันที่ 27 มิ.ย.-24 ก.ค. นี้ ตกแต่งชั้น G และล็อบบี้ภายในศูนย์การค้าเกษรเป็นสวนน้ำหอมแห่งแรกใจกลางกรุงเทพฯ แสดงสุดยอดศิลปะแห่งน้ำหอมที่สร้างสรรค์โดยเฉพาะจากศิลปินนานาชาติชื่อเสียงระดับโลก 13 คน และศิลปินผู้สร้างสรรค์น้ำหอมอีก 13 คน หรือรู้จักในชื่อ “The Nez” (จมูก) จากบริษัท จีวอดอง

ในงาน “Essences Insensees” แสดงศิลปะการจัดวาง (Installation) โดยฌอง-ลุค วิลมุท ศิลปินแนวศิลปะร่วมสมัยชื่อเสียงระดับโลกชาวฝรั่งเศส สร้างสรรค์ผลงาน “เดอะ สแปลช” (The Splash) ควบคู่การแสดงนิทรรศการสุดยอดศิลปะแห่งน้ำหอม ซึ่ง ฌอง-ลุค วิลมุท เป็นศิลปิน 1 ใน 13 คนที่ออกแบบขวดน้ำหอมและสร้างสรรค์กลิ่นน้ำหอมร่วมกับ ฌ็อง-ปาสกาส ออสมงต์ ศิลปินผู้สร้างสรรค์น้ำหอมจากบริษัท จีวอดอง ปัจจุบัน ฌอง-ลุค วิลมุท อาศัยอยู่ในปารีส และทำงานเป็นอาจารย์สอนศิลปะที่ Ecole National Superieur de Paris DES BEAUX-ARTS สัปดาห์ละ 2 วัน เวลาที่เหลือสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเพื่อความเพลิดเพลิน ควบคู่กับการทำธุรกิจในงานศิลปะ .

ฌอง-ลุค วิลมุท เดินทางถึงไทย เพื่อเตรียมตัวสร้างสรรค์ผลงาน กล่าวว่า เมื่อจบการศึกษาด้านวิจิตรศิลป์จากโรงเรียนสอนศิลปะแห่งเมืองเม็ทซ์ เดินทางไปประเทศอังกฤษ มีโอกาสร่วมกลุ่มนักประติมากรรมสมัยใหม่ชั้นแนวหน้าของอังกฤษในขณะนั้น เช่น แค็กก์ และบิล วู้ดโรว์ ผลงานที่สร้างสรรค์ส่วนใหญ่หลากหลายด้วยมุมมองจากวัตถุ สิ่งของและธรรมชาติรอบตัว อาทิ ค้อน นาฬิกาปลุก หลอดไฟนีออน เป็นต้น โดยดัดแปลงเป็นงานศิลปะ ด้วยแนวคิดคนกับโลกมีความเข้ากันได้สิ่งแวดล้อมเป็นแรงบันดาลใจ เช่น ผลงานในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เห็นชาวบ้านในกรุงพนมเปญนิยมรถจักรยานยนต์ จึงออกแบบสามารถนั่งได้ทั้งครอบครัว
.
. “การสร้างสรรค์ผลงานในไทยครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจจากสถานที่จัดแสดง ทุกครั้งสร้างสรรค์ผลงานเข้ากับสถานที่ เมื่อเห็นรูปศูนย์การค้าเกษรรู้ว่าไม่ง่ายเลยที่จะคิดงาน แต่เมื่อเห็นสกายไลท์ด้านบนแสงสว่างสามารถส่องผ่าน ทำให้ภายในดูโล่งโปร่งสบายตา จึงมองเรื่องความสูงที่แสงสามารถตกพื้น จึงเกิดความคิดทำเรื่องเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง ใช้น้ำจากขวดน้ำหอมเป็นแรงบันดาลใจเกิดเป็นหยดน้ำที่ตกจากที่สูง กระทบพื้นหยดน้ำแตกกระจายบนพื้น ใช้เวลาคิดงานชิ้นนี้ประมาณ 2 เดือน ใช้ไม้ไผ่เป็นโครงสร้าง ทับด้วยเปเปอร์มาเช่”
.
ในส่วนผลงานออกแบบขวดน้ำหอม ฌอง-ลุค วิลมุท กล่าวว่าได้รับแรงบันดาลใจจากต้นยากุซีดาร์ อายุกว่า 3,000 ปี บนเกาะแห่งหนึ่งในเมืองยาคุชิม่า ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น สัมภาษณ์ต้นไม้ด้วยจินตนาการเพราะเชื่อว่ารอบต้นไม้ต้องมีสิ่งเกิดขึ้นมากมาย นอกจากนี้ยังนำเปลือกไม้ แมลงเล็ก ๆ และ Musk จากต้นไม้มาปรุงกลิ่นน้ำหอม ทำงานร่วมกับนักผสมน้ำหอม กำหนดแนวทางการออกแบบน้ำหอมแสดงถึงความรอบรู้และสติปัญญา อยู่ในขวดแก้วคริส ตัลลาลีค ภายในมีแคปซูลแก้วบรรจุชิ้นไม้สน
.

.
ซีดาร์ ฌอง-ลุค วิลมุท กล่าวว่าเป็นครั้งแรกที่เดินทางมาไทย และร่วมแสดงผลงานในงาน ลา แฟ็ต รู้สึกมีความสุข และยินดี อย่างยิ่ง หลังเดินทางมาพัก 1 สัปดาห์รู้สึกชอบเมืองไทย เพราะชอบหาประสบการณ์และลองใช้ชีวิตในสถานที่ใหม่ ๆ ทำให้ชีวิตตื่นเต้นตลอดเวลา ซึ่งการแสดงผลงานในสถานที่ต่าง ๆ เป็นเครื่องบ่งบอกได้ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา อังกฤษ สหรัฐอเมริกา บราซิล ญี่ปุ่น กัมพูชา ฯลฯ
.
นอกจากนำผลงานที่เคยจัดแสดงในปารีส และผลงานที่สร้างสรรค์ใหม่ จัดแสดงภายในศูนย์การค้าเกษร ฌอง-ลุค วิลมุท ยังร่วมทำกุศลออกแบบจี้พร้อมสร้อยคอเงินแท้ จำนวน 350 เส้น จากแนวคิดเพื่อให้เข้ากับผลงานจัดแสดงในชื่อ “Dropp” รูปหยดน้ำตกกระทบพื้น และค่อย ๆ ดีดตัวขึ้นสู่ผิวอากาศอย่างช้า ๆ โดยนำออกจำหน่ายระหว่างการจัดแสดง รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบแก่บ้านเด็กตาบอดพิการซ้ำซ้อนกรุงเทพฯ