.::Umo_Kislira::.

Hello! Everyone **Welcome to my blog!** I hope you like it and please post comment. Thanks for all.>_<

Monday, September 24, 2007

T.T ฮือ....ฮือ.... อ่านหนังสือไม่ทันแล้ว ทำไงดี?
เครียดๆ แบบนี้ มาดูโฆษณาย้อนยุคกันดีกว่า
.
มันคือโฆษณาอะไรเหรอ?
.
คนนี้หน้าตาคุ้นๆ เนอะ
.
ว๊าย! เงาะป่า!!!
.

อันนี้ออกแนวหน้ากลัว "ท่านเป็นสิวใช่ไหม?"
.

ออด๊าซ....เคยได้ยินชื่อนี้นะ
.
ลักซ์ รุ่นคุณแม่ยังสาว
.
อันนี้อะไรเนี่ย!!
.
เฮอๆ กระทิงแดงเค้าเคยทำเป็นเม็ดด้วยนะ

Saturday, September 15, 2007

Are you romantic?
.

1. Do you remember special occasions?
a. I make a note of important birthdays in my diary.
b. I’m lucky if I remember my birthday.
c. Most of the time — if it’s important.
.
2. When was the last time you saw the sunset?

a. I have no idea — I never notice.
b. Er … maybe last summer.
c. Every night — it’s magical.
.
3. Ever leave little notes for that special someone?


a. Only when I want them to pick up my laundry.
b. Yes. And I love getting them, too.
c. I might have done.
.
4. Candlelit dinners are:

a. A time to talk, share and get close.
b. OK if I’m not paying.
c. A fire hazard.
.
5. Ever given someone special in your life a pet name?
a. No. I’m not close with animals.
b. Sure. I give lots of people nicknames.
c. Yes. It’s embarrassing.
.
6. Have you ever kept a memento of a special day?

a. Yes. I nearly got arrested for it!
b. Sure. I put it in a special box with all the others.
c. No. That’s stupid.
.
7. Ever sent someone flowers?

a. I love doing that.
b. No. But I have picked some and given them.
c. Not with my allergies.
.
8. Your ideal first date would be:

a. A movie, so you don’t have to talk.
b. A football match — who cares if they’re not a fan.
c. Whatever makes my date happy.
.
SCORING1. a=3, b=1, c=2 2. a=1, b=2, c=3 3. a=1, b=3, c=2 4. a=3, b=2, c=1 5. a=1, b=3, c=2 6. a=3, b=2, c=1 7. a=3, b=2, c=1 8. a=1, b=2, c=3

.
HOW DID YOU DO?
8-13: You wouldn’t be caught dead muttering sweet nothings into someone’s ear. Perhaps you need to chill out — a candlelight dinner never killed anyone.
14-19: You’ve got your feet on the ground when it comes to matters of the heart. You see yourself as sincere, not gushy. But if it were the right person, you may just crack and go all mushy.
20-24: You’re a real softy with a big heart and stars in your eyes. You always cry at movies and weddings. While there’s nothing wrong with being romantic, you’d be wise to remember that life isn’t always perfect.

Thursday, September 06, 2007

จำได้มั้ยว่า อ.มนัสเล่าเรื่องการสอบ DELF ให้ฟัง
อันนี้เป็นบทความของคุณ Shaggy Boy แห่งบอร์โด

สอบ สอบ สอบ !!! ภาษาฝรั่งเศส!!!???
.
สำหรับเด็กต่างชาติที่ไม่ใช่ประเทศ Francophone (ประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ) และต้องการมาผ่านช่วงหนึ่งของชีวิต ณ ประเทศ 6 เหลี่ยมแห่งนี้ คงมีน้อยคนที่จะปฏิเสธเรื่องการผ่านการสอบภาษาเพื่อเข้าศึกษาในสถาบันต่างๆกัน ระบบและเงื่อนไขในการรับนักศึกษาของเมืองน้ำหอมนี่ค่อนข้างจะแปลกแตกต่างจากชาวบ้านข้างเขา เพราะความซับซ้อนอย่างนี้เลยทำให้หลายคนต้องลากลับบ้านก่อนจะได้รับการขัดเกลาในระบบ Descartes ความคิดที่ต้องเปลี่ยนไปเมื่อต้องอยู่กับคนฝรั่งเศส ภาษาที่ตัองเริ่มต้นกันใหม่ (สำหรับคนบางคน(อย่างผม)) และกลุ่มที่ต้องมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น ทำให้ปีแรก เป็นปีที่เรียกว่า l’année sabbatique สำหรับคนหลายคน อย่างไรก็ตามชีวิตของเด็กไทยที่ขอพูดภาษาฝรั่งเศสก็ยังคงต้องต่อสู้ต่อไป จริงไหม?
.
TCLF, DELF, DALF, Teste de Linguistique พูดถึงชื่อขึ้นมาหลายคนคงร้องอ้อ แต่อีกหลายคน (คงจำนวนมากว่า) คงงงกันว่าตัวที่ชื่อมันอ่านยากๆนี่มันคืออะไร นี่ไม่ใช่การใบ้หวยให้เอาไปช่วยอุดหนุนรัฐบาลนะคับ แต่เป็นเรื่องจริงที่เหล่านักเรียนไทย (คนสู้ชีวิต) ต้องผ่านมาควบคู่กับการสอบภาษาปีแรก เอาเป็นว่าผมจะจัดการชำแหละ (น่าเกลียดไม่เอา) อธิบายแต่ละตัวว่าคืออะไรเริ่มจาก TCLF ย่อมาจาก Le Teste Connaissance de la Langue Française ยาวจริงๆ ถ้าคุณมาเหยียบประเทศนี่ตอนกลางปีพอดิบพอดี อาหารจานนี้คือ Entrée ของคุณครับ จะโดนเสริฟ โดยไม่รู้ตัวหลังจากคุณเริ่มคุ้นเคยกับกลิ่น Fromage (เนยแข็ง) และ La Merde de Chien (ไม่ขอแปล แล้วคุณจะทราบเอง) ข้อสอบชุดนี้อาจทำให้คุณถึงกับอึ่งได้ เพราะจริงๆแล้วมันคือการวัดระดับเราในการใช้ภาษาฝรั่งเศสซึ่ง ถ้าโชคดีบางปีก็เป็นตัวเลือก ไม่มีการสอบพูดนะคับซึ่งจะดีมากสำหรับเด็กไทยที่รักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไทยการสงวนคำพูด (ซึ่งไม่ดีเท่าไรนะคับ) อย่างไรก็ตาม ประกาศนียบัตรตัวนี้ก็สามารถพาคุณเข้าสถาบันการศึกษาบางแห่งที่คุณหวังไว้ได้ ที่ทราบมากก็ได้แก่พวก école de commerce ต่างๆ
.
ต่อมา Plat Principal อาหารจานหลักที่แทบทุกคนต้องเจอคือ DELF (Diplôme d’Etudes de la Langue Française) จะว่าไปมันก็คล้ายกับ TOFLE หรือ IELT แต่จำนวนข้อสอบเยอะกว่า และที่สำคัญถ้าเราเกิดผ่านแต่ละหน่วย ประกาศนียบัตรตัวนี้จะมีค่าตลอดชีพ (น่าสนนะคับ) ด้วยเหตุนี้ผู้ที่ศึกษาภาษาฝรั่งเศสส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะผ่านการสอบในระบบนี้
.
จริงๆแล้ว DELF และ DALF เปรียบเหมือนประกาศนียบัตรตัวเดียวกันเพียงแค่ DALF เป็นตัวที่สูงกว่า หมายความว่า ต้องสอบ DELF ให้ผ่านหมดก่อนที่จะขึ้นไปสอบ DALF ซึ่งในตัว DELF เองมีอยู่ 6 หน่วยย่อยแบ่งเป็น
.
1. DELF 1er Dégrée
- A1 ความรู้ทั่วไป
- A2 การอธิบายความคิดและความรู้สึก
- A3 ความเข้าใจและการเขียน
- A4 ทักษะในการใช้ภาษา
2. DELF 2ème Dégrée
- A5 วัฒนธรรมของประเทศฝรั่งเศสและประเทศผู้ใช้ภาษาฝรั่งเศส
- A6 การใช้ภาษาเฉพาะทาง
.
ทั้ง 6 หน่วยนี้ เป็นหน่วยหลักพื้นฐานที่ผู้ศึกษาภาษาฝรั่งเศสทุกคนสามารถผ่านได้(หรือเปล่า) ซึ่งช่วงเวลาของการสอบจะแตกต่างกันในแต่ละสถานที่เรียนภาษา จึงทำให้โอกาสในการสอบเพื่อให้ผ่านในหน่วยนั้นๆมีมากขึ้น จากการเดินทางตระเวนสอบ ถึงกระนั้น DELF ก็เป็นเพียงแค่ประกาศนียบัตรเริ่มต้นของการศึกษาภาษาฝรั่งเศส ซึ่งอาจมีผลเพียงช่วยบ่งบอกว่าเรารู้ภาษาฝรั่งเศส ดังนั้นการที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษานั้นจำเป็นต้องมีอีก ตัวช่วยนั้นคือ DALF (Diplôme d’Approfondi de la Langue Française)
ทางประเทศฝรั่งเศสถือว่า หากคุณสอบผ่าน DALF ระดับภาษาของคุณสามารถศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาได้ ดังนั้นการจะผ่าน เพื่อรับสิทธิ์นี้จึงมิใช่เรื่องง่าย DALF แบ่งออกเป็น 4 หน่วยย่อย นั่นคือ
- B1 ทักษะการเขียน (ย่อความ ตอบคำถามจากเรื่อง)
- B2 ทักษะการฟัง
- B3 ทักษะการเขียน (สรุปความ)
- B4 ทักษะการพูด
ระดับความยากแตกต่างกันแต่ละหน่วย และสถานที่สอบ และหากคุณสามารถฟันฝ่าจนผ่าน DALF ได้ไม่ว่ามหาวิทยาลัยใดของฝรั่งเศส (ในระดับ1er cycle) จะอ้าเเขนรับคุณทันทีที่คุณส่งผลไป